Apple, Google และ Microsoft กำลังขยายตัวเลือกการลงชื่อเข้าใช้แบบไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
2 นาที. อ่าน
เผยแพร่เมื่อ
อ่านหน้าการเปิดเผยข้อมูลของเราเพื่อดูว่าคุณจะช่วย MSPoweruser รักษาทีมบรรณาธิการได้อย่างไร อ่านเพิ่มเติม
เนื่องในวันรหัสผ่านโลก Apple, Google และ ไมโครซอฟท์ ได้ร่วมมือกันสนับสนุนตัวเลือกการลงชื่อเข้าใช้แบบไม่มีรหัสผ่านอย่างน่าประหลาดใจ
ในการแสวงหาที่จะหยุดผู้ใช้จากการตกเป็นเหยื่อของการละเมิดข้อมูลและการเข้าครอบครองบัญชี Apple, Google และ Microsoft ได้เปิดตัว ร่วมกันแถลงข่าว ประกาศแผนการขยายการสนับสนุนมาตรฐานการลงชื่อเข้าใช้แบบไม่มีรหัสผ่านที่สร้างขึ้นโดย FIDO Alliance และ World Wide Web Consortium
จากข้อมูลของ FIDO Alliance รหัสผ่านมาตรฐานที่เราทุกคนเคยใช้นั้นมาพร้อมกับข้อบกพร่องโดยธรรมชาติว่ามีความยุ่งยาก ทำให้ผู้บริโภคยอมประนีประนอมการรักษาความปลอดภัยและนำรหัสผ่านของตนไปใช้ซ้ำในอุปกรณ์และเว็บไซต์ต่างๆ หากพวกเขาไม่มีตัวจัดการรหัสผ่านหรือทั้งหมด ของรหัสผ่านที่เขียนไว้
โชคดีที่มาตรฐานการลงชื่อเข้าใช้แบบไม่ใช้รหัสผ่านที่เสนอใหม่นี้ไม่ได้มาพร้อมกับข้อบกพร่องโดยธรรมชาตินี้ แต่ผู้ใช้จะสามารถลงชื่อเข้าใช้แอปและเว็บไซต์ได้ "ด้วยการดำเนินการเดียวกันกับที่พวกเขาทำหลายครั้งในแต่ละวันเพื่อปลดล็อกอุปกรณ์ของตน เช่น การตรวจสอบลายนิ้วมือหรือใบหน้าอย่างง่าย หรือ PIN ของอุปกรณ์”
ซึ่งหมายความว่าแทนที่จะพิมพ์รหัสผ่านของคุณลำบากทุกครั้งที่คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ สิ่งที่คุณต้องทำคือเข้าถึงโทรศัพท์ของคุณ ปลดล็อกและยืนยันตัวตนของคุณภายในแอปตรวจสอบความถูกต้องของ FIDO โดยดำเนินการทันที ลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์หรือแอปที่คุณพยายามเข้าถึง
FIDO Alliance ระบุว่าแนวทางใหม่นี้จะ "ปลอดภัยกว่าอย่างมาก" เมื่อเทียบกับรหัสผ่านแบบเดิม จึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลก XNUMX แห่งเป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้
มีแอปเปิ้ล, Googleและ Microsoft ทั้งหมดมารวมกันเพื่อมาตรฐานใหม่แบบไม่ใช้รหัสผ่านนี้ก็มีความสำคัญต่อความสำเร็จเช่นกัน เพราะการที่จะเห็นการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย ผู้ใช้จะต้องสามารถกำจัดรหัสผ่านในทุกแอปและทุกอุปกรณ์ได้อย่างเป็นไปได้ ไม่เช่นนั้น มาตรฐานใหม่ที่อาจเกิดขึ้นนี้จะมีปัญหามากขึ้น กว่าที่มันคุ้มค่า
ขอบคุณการสนับสนุนจาก Apple, Google และ Microsoft ตัวเลือกการลงชื่อเข้าใช้แบบไม่มีรหัสผ่านใหม่คาดว่าจะพร้อมใช้งานใน “อุปกรณ์หลายพันล้านเครื่อง” ตลอดปีหน้า